รมว. ยุติธรรม สั่งการเตรียมพร้อม ปล่อยนักโทษ คดีกัญชา หลังปลดล็อค 9 มิ.ย. นี้

รมว. ยุติธรรม สั่งการเตรียมพร้อม ปล่อยนักโทษ คดีกัญชา หลังปลดล็อค 9 มิ.ย. นี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำการสั่งการให้เตรียมความพร้อมในการปล่อยตัวนักโทษ คดีกัญชา หลังปลดล็อคกัญชามีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. นี้ คดีกัญชา – วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหาร เข้าร่วมการประชุม

โดยนายสมศักดิ์ ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่า 

เมื่อวาน คณะรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยถึงการปลดล็อคกัญชา ที่จะมีผลวันที่ 9 มิ.ย.นี้ แต่จะต้องมีกฎหมายรอง ในการบังคับใช้ด้วย ดังนั้น ที่ประชุมได้ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมหลังปลดล็อคกัญชาด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ก็จะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังในคดีกัญชา ที่ต้องปล่อยตัวกว่า 4 พันคนทันที

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ ได้รายงานตัวเลขจำนวนผู้ต้องขังที่มีความผิดเกี่ยวกับกัญชา จำนวน 4,075 ราย แบ่งเป็น มีความผิดเกี่ยวกับคดีกัญชาคดีเดียว 3,071 ราย มีความผิดฐานอื่นด้วย 1,004 ราย โดยนักโทษเด็ดขาด และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเกี่ยวกับกัญชาคดีเดียว ศาลจะปล่อยตัว และพิพากษายกฟ้อง

ส่วนที่มีฐานความผิดอื่นด้วย จะไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ แต่ศาลจะแก้ไขยกเลิกโทษที่เกี่ยวกับคดีกัญชาให้

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ให้ผู้บัญชาการเรือนจำ เร่งทำคำร้องให้ผู้ต้องขัง ที่เกี่ยวกับคดีกัญชา ให้ศาลพิจารณา เพื่อศาลจะได้ออกหมายปล่อยตัว ทั้งคดีเด็ดขาด และไม่เด็ดขาด โดยคดีที่เด็ดขาด ก็จะต้องปล่อยตัว ส่วนที่ยังไม่เด็ดขาด ก็จะต้องยกฟ้อง

ซึ่งขณะนี้ หลายเรือนจำมีความพร้อมในเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่เกี่ยวกับคดีกัญชา ในวันพรุ่งนี้แล้ว โดยส่วนใหญ่ จะได้รับการปล่อยตัวทันที ซึ่งผู้ต้องขัง ได้รู้ตัวล่วงหน้าแล้วทุกคน ดังนั้น ขอให้กรมราชทัณฑ์ ดูแลเรื่องการปล่อยตัวให้เรียบร้อยด้วย ส่วนคดีในส่วนของ ป.ป.ส. ก็ต้องจำหน่ายออกจากสารบบ แบ่งเป็น คดียึดทรัพย์ 99 คดี คดีทรัพย์สิน 110 ล้านบาท”

ทั้งนี้ นาย ชัชชาติ กล่าวว่าจะลองไลฟ์เฟซบุ๊กจากสหรัฐอเมริกา แต่จะลองทดลองไลฟ์ที่ประเทศญี่ปุ่นตอนไปเปลี่ยนเครื่องดูก่อน

“คิดอยู่นานว่าจะไปดีหรือไม่ เพราะเราเพิ่งรับงานใหม่ แต่เขาอยากให้ไปมาก มันอาจเป็นหนเดียวในชีวิตที่ฝ่าฟันกันมา เลยตัดสินใจไป จริงๆ แล้วจะไปพรุ่งนี้ แต่ไม่มีไฟลต์ เดินทางราว 18 ชม. ถึงที่นู่นราว 11 โมงเช้า หรือประมาณตี 1 ตามเวลาในไทย วันนี้ขอมาลางานกับคนกรุงเทพฯก่อน แต่สั่งงานไว้หมดแล้ว และพร้อมเชื่อมโยงงานตลอดไม่ได้หายไปไหน ฝากกรุงเทพฯด้วยครับ” นายชัชชาติกล่าว

ก่อนหน้านี้ แสนปิติ ได้เล่าว่า พ่อและแม่รู้ว่าตนมีอาการหูหนวก เนื่องจากตอนอายุ 2 ขวบ ญาติ ๆ พยายามเรียกชื่อ แต่ตนไม่ได้ตอบสนอง ซึ่งทำให้ชัชชาติและภรรยา พาแสนปิติไปหาหมอ และหมอบอกว่าแสนปิติมีอาการหูหนวก ทำให้ตอนแรกแสนปิติต้องติดเครื่องช่วยฟัง แต่ก็ค่อนข้างใช้งานยาก คุณหมอจึงได้แนะนำว่าในเคสของแสนปิติสามารถผ่าตัดและกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติได้ ผ่านการผ่าตัดและฝังอุปกรณ์กับ Cochlear

วินาทีประวัติศาสตร์! สภารับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เปิดทางผู้ผลิตรายย่อย

กลายเป็นวินาทีประวัติศาสตร์หลัง สภารับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เปิดทางผู้ผลิตรายย่อย เตรียมตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาต่อไป ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5 สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ได้ร่วมพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต ฉบับที่… พ.ศ.… หรือร่าง พรบ สุราก้าวหน้า ที่ถูกเสนอแก้ไขโดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล เพื่อให้การขออนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าสำหรับผู้ผลิตรายย่อยสามารถทำได้

โดย ผลการลงมติ เห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 137 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จากนั้นที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน เพื่อพิจารณาในวาระ 2 ต่อไป กำหนดให้แปรญัตติภายใน 7 วัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ทางคณะรัฐมนตรี มีมติขอรับมาพิจารณาในกรอบ 60 วัน ก่อนโหวตวาระ 1 นำไปสู่ารบรรจุในวาระพิจารณาของสภาอีกครั้งในวันที่ 8 มิ.ย.

ขณะที่นาย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ “ขอบคุณครอบครัว ภรรยา ทีมงานผช.ผม ทุกคนในพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล เพื่อน ๆร่วมสภาฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลทุกท่านที่ช่วยให้ร่างวันนี้ผ่าน พี่น้องเพื่อนในวงการสุรา ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะชาวคลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่ที่ให้โอกาสเเละสนับสนุน

จากวันที่โดนจับ #ผมชอบเบียร์ สู้จนวันนี้ เราสู้ต่อครับ”

สำหรับสาระสำคัญของ พรบสุราก้าวหน้า คือ การกำหนดให้ผู้ที่ผลิตสุราเพื่อการบริโภคไม่ต้องขอใบอนุญาตและไม่มีความผิด, ไม่กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติการขอใบอนุญาต เช่น ทุนขั้นต่ำในการจดทะเบียน เปิดทางผู้ประกอบการรายย่อย, ไม่กำหนดหลักเกณฑ์กำลังการผลิต กำลังแรงม้า ฯลฯ เปิดทางผู้ประกอบการรายย่อย

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า